ตั้งแต่เราพ้นช่วงมนุษย์ถ้ำที่ไม่ใส่เสื้อมา จนพัฒนาการมาถึงมีชุดชั้นในใส่ แต่ใครจะคิดล่ะว่ามาถึงทุกวันนี้ดูเหมือนจะย้อนกลับไปไม่ใส่ชุดชั้นในกันอีกครั้ง ก่อนหน้าที่เราจะย้อนกลับไปเป็นมนุษย์ถ้ำ เรามาดูกันดีกว่าว่าช่วง 100 ปี ที่ผ่านมาเรามีวิวัฒนาการของชุดชั้นในอย่างไรบ้าง
1900s
ยุคแห่งความรัดติ้ว ความงามคือการเสียสละ คอร์เซ็ทเป็นเครื่องมือเสริมความยั่วยวนในยุคนั้น ที่มาพร้อมกับความเจ็บปวดทางร่างกาย บางครั้งลามไปถึงซี่โครงหัก หรือ อวัยวะภายในผิดปกติ
1910s
ยุคนี้ยังคงนิยมเอวคอดกิ่วจนเกินจริงอยู่ แต่สิ่งที่พัฒนาไปคือการเปิดเผยเนื้อหนังที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับยุคก่อน ไม่ว่าจะเป็นการโชว์ช่วงคอที่ลึกขึ้น และ การเปิดเผยให้เห็นช่วงขาที่มากขี้น
1920s
ช่วงนี้อยู่ในยุคของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทุกอย่างต้องประหยัดรวมไปถึงผ้าสำหรับทำชุดด้วย และ ยุคนี้นี่เองเป็นจุดกำเนิดบราเซีย
1930s
หลังสงครามผู้หญิงมีความต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ดังนั้นยุคนี้ชุดชั้นในจึงถูกออกแบบมาเพื่อให้สวมใส่ได้ง่าย และ ดูทันสมัย
1940s
ยุคนี้บราเซียเกิดขึ้นเต็มรูปแบบ พร้อมกางเกงที่ดูเหมือนกางเกงในคุณป้าในปัจจุบัน แต่สมัยนั้นแบบนี้ถือว่าเซ็กซี่มากแล้ว
1950s
คริสเตียนดิออร์มาเต็ม กับความเป็นนิวลุคที่ครอบงำยุคไว้ได้อย่างเด็ดขาด ที่ผู้หญิงต้องเอวเล็ก สะโพกต้องกลม แล้วก็บราทรงกรวยแหลมแทงคอหอยนี่แหละ นับว่าเซ็กซี่ที่สุด
และในยุคนี้ชุดชั้นในสีดำเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องมี
1960s
หน้าอกทรงกรวยแหลมเฟี้ยวถูกลดความนิยมลง และไอคอนในยุคนี้คือ บริดเจต บราดอท
พุชอัพบราถือกำเนิดขึ้นในยุคนี้เป็นครั้งแรก โดยบริเวณบราจะมีช่องเล็กๆให้ยัดเสริมเพิ่มความอึ๋มเข้าไป
1970s
มินิมอลมาสุดๆ ยุคนี้กางเกงในตัวจิ๋ว หรือ แพทที่จึงถือกำเนิดขึ้น
1980s
ยุคนี้เป็นยุคที่ถือเอาชุดชั้นในเป็นเครื่องบ่งชี้รสนิยม สะท้อนความหรูหรา เพราะฉะนั้นมันจะถูกแสดงออกมาโดยวัตถุดิบที่พิถีพิพัน ไม่ว่าจะเป็นลูกไม้ หรือ ชิ้นผ้าไหมราคาแพงระยับ
2000s
สำหรับยุคนี้ มันคือแฟชั่น ความแฟนตาซีเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่สวมใส่ชุดชั้นใน